ยินยอม 90% เลขาธิการกพฐ.ให้คำมั่น "นักเรียน" ไม่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์มารร.ได้ - hongpagkru

3 ต.ค. 2564

ยินยอม 90% เลขาธิการกพฐ.ให้คำมั่น "นักเรียน" ไม่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์มารร.ได้



ฉีดวัคซีนไฟเซอร์วัยเรียน 12-17 ปี คงกำหนดเดิม 4 ตุลาคมนี้ เผยผู้ปกครองกว่าร้อยละ90 ยินดีให้ลูกฉีดวัคซีน เลขาธิการกพฐ. ให้คำมั่น "นักเรียน" ไม่รับวัคซีนเมื่อเปิดเทอม2/2564 จะมาโรงเรียนหรือเรียนออนไลน์ที่บ้านก็ได้

ความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้ “นักเรียน” อายุระหว่าง 12-17 ปี หรือเด็กที่อยู่ในวัยเรียนระหว่างชั้นมัธยมศึกษาปีที่1(ม.1)ถึงม.6 และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือปวช. เพื่อรับเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ล่าสุดมีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ดร.สุภัทร  จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ปลัดศธ.) กล่าวถึงแผนการดำเนินการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้ “นักเรียน” อายุระหว่าง12-17 ปี นั้น จากการทำความเข้าใจเบื้องต้นพบว่าผู้ปกครองกว่าร้อยละ90 ยินดีให้ลูกฉีดวัคซีน

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)แจ้งว่าวันที่ 28 กันยายน  2564 วัคซีนไฟเซอร์เข้ามาถึงประเทศไทย และ “นักเรียน” จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ตามกำหนดเดิม คือเริ่มวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 

 

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการกพฐ.) กล่าวว่าระหว่างวันที่ 21-24 กันยายนที่ผ่านมา สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้ดำเนินการสำรวจความยินยอมจากผู้ปกครองของ “นักเรียน” และรวบรวบข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564

"ขั้นตอนนับจากนี้ โรงเรียนหรือสถานศึกษาจะรวบรวบรายชื่อ "นักเรียน" ที่จะเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) จากนั้น สพท.จะต้องส่งต่อข้อมูลให้ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) แต่ละจังหวัด  เพื่อให้ศธจ.ส่งต่อให้สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ไปดำเนินการจัดสรรวัคซีน ให้ตรงตามกับจำนวน “นักเรียน” ที่ผู้ปกครองยินยอมให้รับวัคซีนไฟเซอร์" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

 

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า  วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนโควิดเพียงตัวเดียวที่จะฉีดให้ “นักเรียน” อายุ 12-17 ปี เพราะได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)


ส่วนผู้ปกครองหรือ "นักเรียน" ที่ไม่ยินยอมรับการฉีคซีนไฟเซอร์นั้น เมื่อเปิดภาคเรียนเทอม2/2564 โรงเรียนจะจัดพื้นที่เรียนพิเศษรองรับ หรือจะเลือกเรียนทางออนไลน์อยู่ที่บ้านก็ได้


ขอบคุณเนื้่อหาและข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก