เปิดเรียนเต็มรูปแบบ "ปลัดศธ." ย้ำรร.ต้องมีนักเรียน-ครูได้ฉีดวัคซีนก่อน - hongpagkru

22 ก.ย. 2564

เปิดเรียนเต็มรูปแบบ "ปลัดศธ." ย้ำรร.ต้องมีนักเรียน-ครูได้ฉีดวัคซีนก่อน

 


    โรงเรียนในพื้นที่สีขาว-สีเขียว-สีส้ม เปิดเรียนเต็มรูปแบบ คล้ายรร.กินนอนได้ "ปลัดศธ." ย้ำรร.ในพื้นที่สีแดงเข้มถ้าจะเปิดเรียนต้องไม่มีผู้ติดเชื้อ ตามมาตราการที่สธ.กำหนด พร้อมเผยสัดส่วนนักเรียนและครูต้องได้รับวัคซีนเท่าไหร่ถึงเปิดเรียนได้



       วันที่ 16 กันยายน 2564 เพื่อเตรียมเปิดภาคเรียนที่ 2/ 2564 อย่างเต็มรูปแบบ ในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กระทรวงสาธารณสข(สธ.)ต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า นักเรียนวัย 12-17 ปี ต้องได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ก่อนถึงจะเปิดโรงเรียนได้ล่าสุดมีความชัดเจนไปอีกขั้นจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  


    ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลน์ ว่า ต้องทำความเข้าใจกับสังคมไทยก่อนว่า การจัดการเรียนการสอนในยุคโควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ได้ดำเนินการมาหลายรูปแบบ เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษา  แต่การจะเปิดเรียนแบบเต็มรูปแบบหรือให้เด็กทุกคนมาเรียนที่โรงเรียนนั้น เป็นเรื่องใหญ่

"แต่ศธ. ได้ทำงานร่วมกับสธ.ตลอด และเร็วๆ นี้ จะมีมาตรกรและเงื่อนไขที่ชัดเจนว่าโรงเรียนต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ถึงจะสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ"ปลัดศธ.ระบุ

  

    เงื่อนไขหนึ่ง และสำคัญมาก นักเรียนต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมดในแต่ละโรงเรียน

 

    ขณะเดียวกันคุณครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยร้อยละ 85 ของจำนวนครูฯ ทั้งหมดในสถานศึกษาแต่ละแห่ง

“สถานศึกษาในสังกัดศธ. ในพื้นที่สีขาว และสีเขียว และสีส้มสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ แต่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ต้องไม่มีผู้ติดเชื้อ ส่วนรายละเอียดรอสธ.กำหนดมาตรการอีกครั้ง  อีกทั้งสถานศึกษาในพื้นที่สีแดงเข้มต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือ ศบค.จังหวัด เป็นกรณีไป”ปลัดศธ.แจกแจง

 

    ปลัดศธ. กล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนอายุ 12-17 ปี  ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของนักเรียนเป็นสำคัญ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าการเปิดเรียนในโรงเรียนกินนอนไม่น่ามีปัญหา แต่กรณีโรงเรียนที่เด็กต้องเดินทางไปกลับ ต้องเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.komchadluek.net/news/483945